‘เกษตรกรภาคเหนือ’ บุกเวทีเอเปคป่าไม้ ยื่น 7 ข้อเรียกร้อง ถึง รมว. ทรัพยากรฯ จี้เอาเข้าคุยผู้นำนานาชาติ

เกษตรกรภาคเหนือบุกเวทีเอเปคป่าไม้ ยื่น 7 ข้อเรียกร้อง ถึง รมว. ทรัพยากรฯ จี้เอาเข้าคุยผู้นำนานาชาติ

สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ บุกยื่นหนังสือถึง รมว. ทรัพยากรฯ จี้เอาเข้าคุยผู้นำนานาชาติ เวทีเอเปคป่าไม้ ปลัดกระทรวงฯ รับเรื่อง ย้ำดำเนินการตามกฎหมาย ไม่คุยเรื่องฟอกเขียว

เมื่อวันที่23 .. 2565 เวลาประมาณ 09.30 . สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ หรือ สกน. ในนามเครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายด้านป่าไม้ที่ดิน จำนวนประมาณ 20 คน เดินทางไปที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่ ยื่น 7 ข้อเรียกร้องแก้ปัญหาที่ดินป่าไม้ ถึง วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จี้ให้นำเข้าที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดการประชุมในระหว่างวันที่ 23-25 .. นี้ โดยมี จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้แทนรับหนังสือ

ถาวร หลักแหลม ผู้แทน สกน. กล่าวว่า ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ ในระหว่างวันที่ 23-25 .. 2565 นั้น สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามเครือข่ายประชาชน เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มชนเผ่าและชาติพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายด้านการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของรัฐไทย ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐและเอกชน มีความห่วงกังวลต่อการประชุมดังกล่าว

เนื่องจากเป็นการประชุมที่จะมีแถลงนโยบายด้านเดียวโดยรัฐบาลไทย ซึ่งประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ได้มีส่วนร่วม โดยที่ผ่านมาแม้นจะมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ไขปัญหามาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับและได้รับแก้ไขปัญหาตามเท่าที่ควร ซ้ำร้ายยังปรากฏการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกลุ่มชนเผ่าและชาติพันธุ์ การละเมิดสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นถาวรกล่าว

โดยข้อเรียกร้องในหนังสือมีทั้งสิ้น 7 ข้อ ดังนี้

1.เราขอยืนยันหลักการสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร ตามหลักการแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน

  2.ให้เร่งออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีความที่เกี่ยวกับปัญหาไม้และที่ดินอันเกิดจากการดำเนินการตามนโยบายรัฐ  ทั้งนี้เพื่อเยียวยาแก้ไขประชาชนที่ได้ผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าในยุครัฐบาลเผด้๗การทหาร และในระหว่างรอการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฯ ดังกล่าว ขอให้ยุติการดำเนินคดีชาวบ้านและเยียวยาประชาชนให้ได้รับความธรรม โดยให้สามารถกลับไปทำกินในที่ดินเดิมของตนเองได้ และห้ามนำที่ดินที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมเข้าสู่กระบวนการปลูกป่าค้าคาร์บอนเครดิตโดยเด็ดขาด

  3.ให้ยกเลิก ...ป่าชุมชน .. 2562, ...อุทยานแห่งชาติ .. 2562 และ ...สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า.. 2562 ที่ออกมาในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้ร่างกฎหมายดังกล่าวโดยชุมชน บนหลักการคนอยู่กับป่า ดูแลรักษาและใช้ประโยชน์อย่างสมดุล

  4. ให้เดินหน้าธนาคารที่ดินและกลไกภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า ตามเจตนารมณ์ของภาคประชาชน เพื่อตอบโจทย์การกระจายการถือครองที่ดินสู่มือเกษตรกรอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

  5. หยุดแนวนโยบายการฟอกเขียวโดยข้ออ้าง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แล้วมาแย่งยึดที่ดิน ปลูกป่าทับที่ทำกินของชุมชน และจงหยุดโครงการที่อ้างว่าเป็นการพัฒนาของรัฐและเอกชนทั้งหมดที่เข้ามาแย่งยึดทรัพยากรชุมชนท้องถิ่น ซึ่งกำลังทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทันที

  6. หยุดนโยบายมาตรการห้ามเผาอย่างไร้สติปัญญา เหมารวมการใช้ไฟตามความจำเป็นของนิเวศวัฒนธรรมไร่หมุนเวียนตามปรกติฤดู โดยที่ไม่เคยมีมาตรการใดๆ กับภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ หรือแหล่งกำเนิดมลพิษใหญ่และไม่เคยมีมาตรการดูแลชุมชนชาติพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบมาตรการประจำฤดูของรัฐ

7. ให้รัฐไทยปฏิบัติตามปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนเผ่าพื้นเมือง และขอให้สนับสนุนโดยการเร่งรัดในนายกรัฐมนตรีลงนามรับรองร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง (ฉบับประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมาย 16,559 รายชื่อ) โดยรัฐไทยจะยอมรับหลักการคุ้มครองพื้นที่วัฒนธรรมและการดำรงอยู่ของชนเผ่าพื้นเมืองในร่างกฎหมายดังกล่าวด้วย

ด้าน จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จะรับข้อเรียกร้องไว้หารือ หากไม่ติดขัดข้อกฎหมายก็สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามยังไม่รับปากว่าจะสามารถนำเข้าพูดคุยในการประชุมเอเปคป่าไม้ตามที่ประชาชนร้องขอได้หรือไม่ และยืนยันว่าไม่ได้จะมีการพูดคุยเรื่องการฟอกเขียวในเวทีดังกล่าว

ก่อนจบกิจกรรม สกน. ได้แขวนป้าย 7 ข้อเรียกร้อง ในหัวข้อจากเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบด้านป่าไม้ที่ดิน ถึง เอเปค (Thai Peasant & Indigenous Victims’ voice to APEC)” ไว้ที่หน้าโรงแรมเลอ เมอริเดียน ท่ามกลางการจับตาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด

#กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม #วราวุธ #เอเปค #สื่อเถื่อนข่าว#Thai_Peasant_Indigenous_Victims_Voice_to_APEC  #เชียงใหม่ #สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ #สกน #เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายด้านป่าไม้_ที่ดิน